Celebrities fillers ฟิลเลอร์

Last updated: 10 Apr 2024  |  4717 Views  | 

Celebrities fillers ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ปลอดภัยไหม?

                ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มแบบชั่วคราว ( Hyaluronic Acid หรือ HA ) ที่ได้รับการรับรองโดย อย.ไทย และสากล US.FDA นำมาใช้ในการเติมเต็มริ้วรอย และร่องลึกให้ตื้นขึ้น โดยมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8-12 เดือน และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ช่วยเพิ่มปริมาตรเนื้อเยื่อให้กับชั้นผิว เสมือนเป็นการเพิ่มขนาดโมเลกุลใต้ผิวให้อุ้มน้ำตามจุดต่างๆ ช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนัง ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก และปรับรูปหน้าบริเวณต่างๆ ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

                ฟิลเลอร์ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา US.FDA  ที่มีความปลอดภัยสูง และจำเป็นต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ และจะต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน

 

  

 

อาการของฟิลเลอร์ปลอม

  1. เกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ เนื่องจากเป็นสารที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับการรับรองโดยอย.ไทยและสากล
  2. อาจเกิดผลข้างเคียงทำให้ใบหน้าผิดรูป ฟิลเลอร์เคลื่อนไปจุดอื่น หรือเป็นก้อนแข็ง กดเจ็บ
  3. เมื่อเกิดปัญหาจะแก้ไขได้ยาก เนื่องจากมักเป็นสารที่ไม่สามารฉีดสลายได้ หรือไม่สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ เพราะไม่ใช่ฟิลเลอร์ของแท้

ดังนั้นก่อน ฉีดฟิลเลอร์ ควรระมัดระวังในการเลือกฟิลเลอร์ที่นำมาฉีด ที่สำคัญแพทย์ที่ฉีดควรมีประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผิดพลาดที่ตามมา

 

เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?

                การฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัยและได้รูปทรงที่สวยงาม ควรฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง นอกจากนี้จะต้องประเมิณและเลือกยี่ห้อ-รุ่นของฟิลเลอร์ที่จะนำมาฉีดได้อย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองโดย อย.ไทย และสากล US.FDA คือ Juvederm และ Restylane สำหรับคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย สามารถสลายได้หมดได้ใน 1-2ปี โดยไม่ทิ้งก้อนแข็งไว้ใต้ผิว


 

ฟิลเลอร์สามารถฉีดที่จุดใดได้บ้าง?

○ เติมหน้าผาก 3-8 cc    ○ เติมขมับ 1-2 cc            ○ เติมแก้มส้ม 2-4 cc    ○ เติมร่องใต้ตา ข้างละ 1 cc
○ เติมร่องแก้ม 1-2 cc    ○ ยกมุมปาก 1-2 cc          ○ เติมคาง 1-2 cc        ○ เติมริ้วรอย หลุมสิว 1 cc 


= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = 

 

เลือกรูปทรงปากไหนดี? สายฝอ สายเกา ต่างกันยังไง ?

 


เครดิตภาพจาก Google เพื่อประกอบบทความ ไม่เกี่ยวข้องกับโฆษณาเชิงพาณิชน์

                สายฝอ กระแสความงามฝรั่งตะวันตก นิยมริมฝีปากรูปแบบ Full Lips และ Heavy Lower Lips ที่มีลักษณะหนา ห้อยนิดๆ เจ่อหน่อยๆ เป็นริมฝีปากที่ดูเซ็กซี่ อย่างเซเลบริตี้ชื่อดังอาทิเช่น Kylie Jenner, Kim-Kardashian, Angelina Jolie, Anne-Hathaway, Julia Roberts และ Scarlett Johansson

 

เครดิตภาพจาก Google เพื่อประกอบบทความ ไม่เกี่ยวข้องกับโฆษณาเชิงพาณิชน์

                สายเกาหลี ได้รับอิทธิผลจากฝั่งตะวันตก แต่นำมาปรับให้เข้ารูปหน้าคนเอเชียมากขึ้น สาวเอเชียนิยมริมฝีปากรูปแบบ Heavy Lower Lips, Bow Shaped Lips และ Horn Chestnut-shaped Lips ที่มีลักษณะหนานิด ห้อยหน่อย เหมือนกับสายฝ. แล้วเพิ่มความปากกระจับ จิ้มลิ้ม มุมปากดูยกขึ้น ซึ่งให้ความละมุน ดูสดใส เป็นธรรมชาติ

 

เครดิตภาพจาก Google เพื่อประกอบบทความ ไม่เกี่ยวข้องกับโฆษณาเชิงพาณิชน์

                รูปทรงปากที่เหมาะกับ'คนไทย' สาวไทยเรามีรูปปากที่ค่อนข้างหลากหลาย จึงสามารถเลือกเติมฟิลเลอร์ได้หลายรูปแบบ เรามาดูกันค่ะ ว่ารูปทรงปากแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

○ โดยปกติขนาดของริมฝีปาก บน:ล่าง ที่เหมาะสมคือ 1:1.6 หรือ ปากบน 1/3ส่วน ปากล่าง 2/3ส่วน ถือเป็น’สัดส่วนทองคำ’ ของใบหน้าและริมฝีปาก เป็นหลักการสำคัญสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก
○ เนื้อริมฝีปากล่าง ไม่ควรใหญ่เกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
○ มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลง ทำให้ดูอ่อนเยาว์ สดใส
○ เนื้อปากควรอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
○ ขอบรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวปกติ ต้องไม่มีริ้วรอย
 

 

 

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = 

  

‘ผู้ชาย’ ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ทรงไหนดี?

                การฉีดฟิลเลอร์สำหรับผู้ชายสามารถฉีดได้ทุกส่วนเหมือนผู้หญิง ส่วนที่แตกต่างจากผู้หญิงจะเป็นเรื่องการออกแบบทรงและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ เพราะผู้ชายจะต้องทำให้ออกมาเป็นธรรมชาติ และคงความเป็นผู้ชาย มีความเท่ ไม่หวานจนเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ปากผู้ชายจะเน้นที่การเพิ่มวอลุ่มเนื้อปากให้ดูอวบอิ่ม ได้รูปเป็นกระจับนิดๆ


  


เครดิตภาพจาก Google เพื่อประกอบบทความ ไม่เกี่ยวข้องกับโฆษณาเชิงพาณิชน์

 

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = 

 

 

♡ การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหาข้อมูลและเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  2. ควรงดการยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibruprofen, diclofenac, ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  3. งดวิตามิน St.Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  4. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  5. หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่กินเป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ

 

♡ ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

  1. สอบถามความต้องการของคนไข้ เลือกทรงและแบบที่ชอบ
  2. พบคุณหมอเพื่อออกแบบทรงริมฝีปาก ประเมินจำนวน CC ที่ใช้
  3. ทายาชาแบบครีมทิ้งไว้ประมาณ 45 - 60 นาที
  4. คุณหมอฉีดเติมเต็มฟิลเลอร์ริมฝีปาก ในแต่ละเคสจะใช้เทคนิคและระยะเวลาในการฉีดที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับทรงที่ต้องการ รูปริมฝีปากก่อนทำ และเนื้อปากของแต่ละท่าน
  5. ระหว่างทำคุณหมอจะคอยเช็คกับคนไข้ว่าได้รูปทรงที่ชอบแล้วหรือไม่ คนไข้สามารถแจ้งคุณหมอ เลือกทรงได้ตามความต้องการเลยค่ะ
  6. เมื่อฉีดเสร็จแล้ว สามารถกลับบ้านหรือไปชอปปิ้งต่อได้ โดยที่ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ

 

♡ วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณทีฉีดฟิลเลอร์ ห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีดได้ ทั้งนี้อาจเกิดอาการคัน ระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวได้ อาการระคายเคืองสามารถหายได้ใน 3 วัน
  2. หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่นการเข้าห้องซาวน่า เพราะจะทำให้ผิวเกิดการยืดหด ส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีดได้ และอาจทำให้เกิดรอยแดง ระคายเคืองและผื่นขึ้นได้
  3. ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะฟิลเลอร์คือสารไฮยาลูลอนิคซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำได้ดี หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4 – 5 วันแรกแนะนำให้ดื่มน้ำให้อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพราะน้ำจะช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้เต็มที่มีทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูเต็มเป็นธรรมชาติ
  4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ และของมึนเมา เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีดผิดปกติ อาจจะทำให้เลือกออก หรือผลลัพท์คลาดเคลื่อนได้
  5. สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเว้นการสูบบุหรี 2-3 วันแรก เพราะอาจทำให้รูปทรงปากผิดรูปได้

 

♡ รีวิวฟิลเลอร์

   

This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy